ความยากจน ความแร้นแค้น ความหิวโหยที่ถูกกลั่นกรองออกมาจนกลายเป็นบทกลอนอันงดงาม “นาฏกรรมบนลานกว้าง”

บางคนอาจพูดกันว่าบทกวี บทกลอนเป็นงานเขียนที่น่าเบื่อ อีกทั้งหน้าปกของหนังสือเล่มนี้มันช่างดูแล้วรู้สึกว่าเก่าแก่ซะเหลือเกิน ไม่เพียงเท่านั้น กระดาษของหนังสือเล่มนี้ยังเหลืองมากอีกต่างหาก เป็นหนังสือที่ไม่มีอะไรน่าดึงดูดเลยสักนิด— แต่สำหรับเราแล้ว หนังสือปกสีเขียวอ่อนที่เต็มไปด้วยคราบแห่งความเก่าแก่นี้มันช่างน่าดึงดูด ไม่รู้ว่าผู้เขียนกลั่นกรองอะไรลงไปในหนังสือเล่มนั้นบ้าง ทำไมมันถึงได้เจ็บปวด อ่านทีแทบจะกระอักออกมาเป็นเลือดสดๆ

เมื่อช่วงเดือนตุลาคมปีที่แล้ว เราได้รับหนังสือเล่มนี้มาจากพี่คนนึงที่สนิทกัน เพราะเราเคยพูดกับเขาไว้เล่นๆว่าอยากอ่านหนังสือเล่มนี้มานานมากๆ สุดท้ายพี่เขาก็เลยหยิบเล่มนี้เป็นของขวัญวันเกิดที่กำลังจะถึงนี้ซะเลย ยิ่งน่าขนลุกมากขึ้นไปอีกเมื่อหนังสือมันถูกส่งมาในวันที่ 6 ตุลาฯอย่างพอดิบพอดี ขอบคุณพี่เขามากๆที่ทำให้เราได้อ่านหนังสือเล่มนี้ ไม่อย่างนั้นก็คงจะไม่มีรีวิวของหนังสือเล่มนี้แน่ๆ

ความยากจนโหดร้าย อุดมการณ์ การต่อสู้ นั่นคือหัวข้อหลักที่นาฏกรรมบนลานกว้างได้กล่าวถึง แม้แต่บทกลอนบางบทยังทำให้นึกถึงสภาพสังคมไทยในยุคปัจจุบัน ทำให้ได้รู้ว่าสังคมไทยนั้นไม่ได้เปลี่ยนไปเลย ผู้คนยังต้องต่อสู้ หลายคนยังต้องประสบปัญหาความยากจน แม้กระทั่งคนรุ่นใหม่ก็ยังมีอุดมการณ์และความหวังในการเปลี่ยนแปลงทุกสิ่งอย่างในประเทศไทยแห่งนี้ ทั้งที่รู้ว่าการเปลี่ยนแปลงนั้นเกิดขึ้นยากเหลือเกิน เพราะยังมีผู้คนมากมายที่กำลังสูญเสียจิตวิญญาณไปกับระบบ

        หากคุณได้เปิดหนังสือเล่มนี้อ่านแล้ว คุณจะรู้สึกขื่นขม อึดอัดในหัวใจทุกครั้งที่ได้อ่านบทกวี โคลง กลอน ฉันท์ ที่ผู้เขียนได้ผสมผสาน กลั่นกรองจนกลายเป็นตัวอักษรเสมือนนำความรู้สึกของผู้คนทั้งหลายที่กำลังพุ่งปะทุจนแตกระเบิดเป็นเสี่ยงๆ ยิ่งอ่านก็ยิ่งขยี้ไปที่หัวใจของมนุษย์เราจนแทบหลั่งน้ำตาออกมา ถึงกระนั้นก็ยังมีคำปลอบโยนจากบทกลอนในเล่มที่เราชอบมากที่สุด ซึ่งบทกลอนนั้นกล่าวเอาไว้ว่า

“ร้องไห้เถิดถ้าจะร้องเพื่อจะทุกข์

แต่อย่าร้องเพื่อจะทุกข์เถิดร้องขอ

ซึ่งน้ำตาแต่ละหยดที่รดออ

จะเหมือนตรวนแต่ละข้อคอยยืดยื้อ”

การร้องไห้ของคนเรานั้นเป็นเรื่องปกติ แต่การร้องไห้จะเป็นผลดีเมื่อคุณรู้จักร้องไห้และไม่จมปลักกับมันนานจนเกินไป จงร้องไห้เพื่อที่จะได้ลุกขึ้นมาสู้อีกครั้งอย่างเฉิดฉาย ไม่อย่างนั้นโซ่ตรวนจะกักขังคุณให้โศกเศร้าอยู่แบบนั้น

ไม่เพียงปลอบประโลม แต่บทกลอนของคมทวน คันธนูยังมีความหัวสมัยใหม่ พวกคุณคงเคยเห็นเหล่าเฟมมินิสต์ที่มักจะออกมาคอลเอาท์เกี่ยวกับเรื่องระบอบชายเป็นใหญ่กันมาบ้าง จนตอนนี้การต่อสู้ระหว่างชายและหญิงยังคงไม่จบไม่สิ้น เพียงแค่เปลี่ยนแพล็ตฟอร์มในการต่อสู้ใหม่เท่านั้นเอง

ปล. เอาความขลังของหนังสือมาให้ชมกันด้วย เพราะว่ากระดาษหนังสือมันเก่ามาก บ่งบอกเลยว่ามันขลังขนาดไหน (หัวเราะ)

สุดท้ายนี้หากคุณกำลังหาหนังสือที่เป็นมิตรกับคนสมาธิสั้น (และขยันหาความหมายถอดความ) เราคาดว่านาฏกรรมบนลานกว้างคงเป็นเล่มที่เหมาะกับคุณไม่มากก็น้อย อย่าลืมเตรียมเหล้าเบียร์มาพร้อมอ่านหนังสือเล่มนี้ไปด้วยถ้าคุณเป็นผู้ใหญ่ที่เหน็ดเหนื่อยกับโลกของทุนนิยมอยู่ (**เพราะมันเหมาะมากๆ **เด็กไม่ควรดื่มแอลกอฮอล์นะคะ)

โดย: เบญจ์ บุญเจริญ

You May Also Like

More From Author

+ There are no comments

Add yours