“เฮ้อ วันนี้มันเป็นอะไรนักวะ”

คุณบ่นสัพเพเหระพร้อมกับสีหน้าเซ็งๆเหมือนกับว่าโลกใบนี้จะแตกออกเป็นเสี่ยงๆ นาฬิกาบนผนังบ่งบอกว่าเวลาเลิกงานใกล้มาถึงแล้ว คุณกำลังดีใจที่จะได้กลับบ้านไปนอนหลับพักผ่อนหลังจากที่เจอวันแย่ๆมาทั้งวันเสียที แต่แล้วภายในเวลาไม่กี่วินาทีฝนบนฟ้าก็เทลงมาเสียอย่างนั้น ด้วยเหตุนี้คุณจึงไม่มีทางเลือกอื่นนอกจากต้องรอในออฟฟิศให้ฝนหยุดตกเสียก่อน แล้วคุณก็คิดอีกครั้งว่า ทำไมวันนี้มันช่างเป็นวันที่แย่ขนาดนี้

แม้ว่าจะรู้อยู่แล้วว่าโลกไม่ได้ใจดีกับเราขนาดนั้น แต่ทำไมบางครั้งเรากลับรู้สึกว่า โลกถึงได้ใจร้ายกับเรามากถึงเพียงนี้

ผู้เขียนขอให้คุณใจเย็นๆและค่อยคิดใหม่อีกที เพราะแท้จริงแล้วโลกใบนี้อาจไม่ได้ใจร้ายกับคุณขนาดนั้นหรอก

มีวันที่แย่ แต่ไม่ได้หมายความว่าชีวิตของเราทั้งชีวิตจะแย่ไปด้วย

บางครั้งการมองเรื่องแย่ๆที่เป็นปัญหาเล็กๆเพียงแค่จุดเดียว อาจทำให้คุณหยิบจับความเซ็งๆของวันนี้มาคิดซ้ำๆว่า ทำไมวันนี้มันถึงได้ซวยจังเลย ทั้งที่ความจริงเรื่องที่คุณได้พบเจอมันเป็นแค่เรื่องแย่ๆในชีวิตคุณเท่านั้น ขอจงระลึกไว้ว่า ไม่ว่าช่วงวัยไหนก็ตาม คุณมักจะพบกับเรื่องแย่ๆตั้งแต่เล็กน้อยไปจนถึงเรื่องใหญ่โต อะไรพวกนั้นทำให้คุณรู้สึกซึมหรือเอาแต่ตั้งคำถามว่าทำไมวันนี้ถึงได้แย่อย่างนี้ แต่เมื่อคุณนึกย้อนกลับไปในช่วงที่คุณยังเป็นเด็ก คุณก็พบว่าวัยนั้นมันก็มีอะไรเซ็งๆมากมายเหมือนกัน อย่างเช่นการที่คุณลืมเอาสมุดการบ้านมาโรงเรียนทั้งที่ทำเสร็จแล้ว เพื่อนที่โรงเรียนไม่คุยด้วยโดยที่คุณไม่รู้ว่าทำอะไรผิด หรือสารพัดอย่างที่เราในวัยเด็กจะนึกออก ถึงแม้ว่าในตอนนี้เรื่องแย่ๆที่คุณในวัยทำงานได้เจอในชีวิตประจำวันมันจะเป็นปัญหาที่ดูใหญ่กว่าตอนเป็นเด็กอยู่มาก แต่ถ้าหากคุณใช้สติ และมองเรื่องแย่ๆเหล่านั้นเป็นเรื่องปกติได้ล่ะก็ เรื่องเหล่านั้นจะกลายเป็นจุดน้อยๆที่เราสามารถมองข้ามมันไปได้ในที่สุด

เพราะความจริงแล้วเรื่องแย่ๆที่เป็นส่วนประกอบในวันเซ็งๆของคุณมันก็เป็นแค่เรื่องของวันนี้ พอพ้นวันนี้ไปแล้ว วันนี้ก็จะเป็นเพียงเมื่อวานเท่านั้นเอง นี่จึงไม่ใช่ทั้งชีวิตของคุณที่จะแย่ลงไปด้วยหรอก

ทำสิ่งดีๆเพื่อทดแทนเรื่องไม่ดีในวันแห่งความซวย

คุณคงเคยได้ยินการแก้แค้นในวัยทำงานกันมาบ้าง ชาวออฟฟิศส่วนใหญ่ทำอย่างนั้น พวกเขามักจะใช้เวลาเลิกงานเป็นเวลาแห่งการพักผ่อนในฉบับของตนเอง โหมเล่นเกมจนดึกดื่นเพื่อเอาเวลาทำงานที่เสียไปกลับคืนมา (ไม่ใช่เรื่องที่สมควรแนะนำเท่าไหร่ แต่หากมันทำให้วันแย่ๆของคุณให้กลายเป็นวันที่ดีได้ มันก็น่าสนใจอยู่ *ปล. อย่าทำบ่อยเพราะเสียสุขภาพ)

เพราะงั้นหากคุณคิดว่าวันนี้เป็นวันที่คุณเจอเรื่องแย่ๆ ทำไมวันนี้มันถึงได้ซวยนัก อยากให้คุณลองหาอะไรที่ทำแล้วคุณมีความสุขเพื่อทดแทนเรื่องแย่ๆที่เกิดขึ้นวันนี้ดู งานอดิเรกของคนเรานั้นมีหลากหลายอยู่แล้ว บางคนอาจจะใช้เวลาไปกับการเล่นเกมหลังจากเลิกงาน อ่านหนังสือเพื่อความบันเทิง หรือบางคนเลือกนอนงีบหลบหลีกความซวยประจำวัน คุณเองก็สามารถเลือกได้ว่าอยากทำอะไรให้วันนี้กลายเป็นวันที่ดีสำหรับคุณบ้าง มันอาจจะทำให้คุณลืมความซวยพวกนั้นได้บ้างก็เป็นได้

ความหวังเป็นสิ่งที่ดี แต่ถึงกระนั้นมันก็อาจย้อนกลับมาทำร้ายคุณได้เช่นกัน

คุณคาดหวังมากเกินไปรึเปล่าว่าจะต้องทำทุกอย่างให้ดีที่สุดโดยไม่บกพร่องอะไรสักอย่าง? บางครั้งการคาดหวังเกินไปในเรื่องต่างๆอาจทำให้วันแสนสุขของคุณกลายเป็นวันแสนสาหัส… ลองตั้งเป้าหมายที่ตรงกับหลักความเป็นจริงสักหน่อย ยอมรับความจริงที่ว่ามนุษย์เราไม่ได้เพอร์เฟ็กต์ทุกสิ่งอย่าง มีวันที่ล้มเหลวบ้าง มีวันที่ไม่ดีบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลกอะไรนัก หรือหากคุณคิดว่าเป้าหมายนั้นมันใหญ่เกินไปสำหรับคุณ ลองย่อยให้มันเล็กลงแล้วค่อยๆเป็นค่อยๆไปกับมันสิ เพราะคนเราน่ะไม่ได้สมบูรณ์แบบขนาดนั้นหรอกนะ

ออกไปเจอผู้คนและโลกภายนอกบ้าง

การฮีลใจตัวเองคนเดียวนั้นอาจเป็นเรื่องที่ยากหรือง่ายสำหรับบางคน แต่ที่จริงแล้วการออกไปเจอเพื่อนๆ ออกไปแฮงก์เอาท์บ้าง นั่นก็สามารถทำให้วันแย่ๆของคุณกลายเป็นวันที่ดีขึ้นมาได้เหมือนกัน บางทีวันนั้นคุณอาจได้ข้อคิดอะไรบางอย่างจากเพื่อนๆของคุณ ทำให้คุณรู้สึกว่าโลกนี้อาจไม่ได้ใจร้ายกับเราขนาดนั้น อย่างน้อยก็ยังมีเพื่อนๆดึงรั้งคุณให้รู้สึกว่ายังมีเรื่องดีๆอยู่บ้าง

ปลดปล่อยความทุกข์ไปกับน้ำตา เพื่อลุกขึ้นสู้ใหม่อีกครั้งในวันแย่ๆครั้งต่อไป

การร้องไห้เป็นอีกวิธีฮีลใจที่ดีเช่นเดียวกันในวันซวย แม้แต่ผู้เขียนเองก็ยังเคยเหนื่อยกับการทำงานในกรุงเทพฯจนต้องร้องไห้บนรถเมล์ คนยุคก่อนๆชอบพูดกันว่าการร้องไห้นั้นแปลว่าเราอ่อนแอ แต่แท้ที่จริงแล้วการร้องไห้เป็นการปลดปล่อยความรู้สึกแย่ๆให้ไหลออกไปกับน้ำตา ทำให้คุณรู้สึกรักตัวเองมากขึ้น เพราะงั้นการร้องไห้จึงไม่ใช่เรื่องผิดอะไรเลย ยิ่งเป็นการดีด้วยซ้ำหากคุณร้องไห้เพื่อลุกขึ้นสู้ใหม่กับโลกที่ไม่ได้ใจดีกับเรามากขนาดนั้น

หากคุณเป็นโรคซึมเศร้า โปรดพบจิตแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและทานยา

ในปัจจุบัน หลายคนพบว่าตนเองเป็นโรคซึมเศร้ามากมายจากเรื่องในชีวิตที่พบเจอ คุณอาจเจอวันแย่ๆติดต่อกันหลายวันจนรู้สึกท้อแท้ การพบจิตแพทย์เพื่อขอคำปรึกษาและได้ยามาทานจึงถือเป็นเรื่องที่สำคัญมากสำหรับผู้ป่วยโรคซึมเศร้า ผู้เขียนขอให้คุณโปรดระลึกไว้ว่า “คุณไม่ได้อยู่คนเดียว” คุณสามารถผ่อนคลายความเครียดด้วยการนอนหลับพักผ่อน ทานยาให้ตรงเวลาทุกวัน ออกไปพบปะสังสรรค์กับเพื่อนๆบ้าง พยายามอย่าละเลยอาการของตนเองเมื่อเกิดความผิดปกติทางร่างกายและจิตใจ มีความสุขกับเรื่องเล็กน้อยในชีวิตที่เกิดขึ้นบ้างเพื่อให้รู้สึกว่าวันแย่ๆของคุณอาจไม่ได้แย่มากขนาดนั้น

หากคุณสงสัยว่าเป็นโรคซึมเศร้า สามารถทำแบบทดสอบประเมินโรคซึมเศร้าได้ ที่นี่ และติดต่อเจ้าหน้าที่สายด่วนสุขภาพจิตได้ที่เบอร์ 1323 ผู้เขียนขอเป็นกำลังใจให้ผู้ป่วยซึมเศร้าทุกท่านให้สุขภาพจิตและกายแข็งแรง มีความสุขในทุกวันนะคะ

แม้ว่าวันแย่ๆของคุณอาจทำให้คุณเสียสูญไปบ้าง แต่มนุษย์เรานั้นไม่ว่าจะโศกเศร้า เสียใจและรู้สึกเหน็ดเหนื่อยอีกสักกี่ครั้ง พวกเราก็ยังสามารถฟื้นคืนกลับมาได้ใหม่เสมอ เมื่อเกิดปัญหาและเจอเรื่องแย่ๆ ขอให้คุณตั้งสติในการแก้ปัญหา เรียนรู้ ตระหนักถึงปัญหาที่เกิดขึ้นเพื่อแก้ไขมันในภายภาคหน้าโดยไม่ยอมแพ้ สุดท้ายผู้เขียนหวังว่าทุกท่านจะมีความสุขอยู่เสมอ สวัสดีค่ะ

You May Also Like

More From Author

+ There are no comments

Add yours