หลังจากผ่านปี 2023 มาแล้ว ผู้เขียนมีความตั้งใจเป็นอย่างยิ่งว่าปีนี้คงจะได้รีวิวเกมกับเขาบ้าง ถึงแม้ว่าจะชอบรีวิวหนังมากกว่ารีวิวเกมก็ตาม (หัวเราะ) จุดเริ่มต้นที่ทำให้ผู้เขียนได้เล่นเกมนี้ คือเมื่อช่วงกลางปี 2023 ผู้เขียนได้มีโอกาสซื้อเกมนี้มาเล่นเพราะอยากเล่น บวกกับช่วงนั้นเป็นช่วงลดราคาพอดี (และยังไม่ตกงานเหมือนอย่างตอนนี้ ฮ่า) เล่นพาร์ทแรกๆรู้สึกว่าก็ไม่เท่าไหร่… แต่พอเล่นไปเรื่อยๆก็พบว่าตัวเองวางมือจากมันไม่ได้ จนใช้เวลาเพียงแค่ไม่กี่อาทิตย์ก็เล่นจบซะแล้ว (อ้าว) วันนี้ผู้เขียนจึงอยากหยิบยกเกมนี้ออกมาพูดถึงในฉบับของตนเองเพื่อเป็นการรีรันว่า เราเคยเล่นเกมเนื้อเรื่องที่ดีมากขนาดนี้มาก่อน หลังจากที่ได้เคยลองเล่น Life is strange เกมชื่อดังของ Square Enix ภาคแรกไปแล้วเมื่อปี 2018 เพราะมีคนแนะนำมาให้เล่น และแม้ว่าภาคสองตัวเอกจะไม่มีพลังวิเศษเหมือนกับภาคแรก แต่ตัวเนื้อเรื่องของเกมก็ทำออกมาได้สนุกจริงๆ แม้ว่าจะมีเรื่องราวและอุปสรรคล้นเหลือกว่าภาคแรกก็ตาม

ผู้เขียนคงไม่พูดเรื่องการควบคุมตัวเกม มุมกล้อง หรืออะไรที่มันดูเทคนิคอลเกินไปสำหรับเกมเมอร์มือใหม่อย่างตัวผู้เขียนเองเพราะไม่ใช่ผู้เชี่ยวชาญมากขนาดนั้น แต่คงเน้นเนื้อหาของบทความนี้ไปที่เนื้อเรื่อง, ได้อะไรจากเกมนี้บ้าง *ซึ่งอาจจะมีสปอยล์ที่สำคัญ (สปอยล์เยอะซะด้วย…) หากใครที่ยังไม่ได้ลองเล่นเกมนี้ ก็อาจจะต้องงดเว้นการอ่านบทความนี้ไปก่อน หลังจากเล่นเกมนี้จบแล้ว ค่อยกลับมาอ่านบทความนี้อีกรอบเพื่อความอินแทน

ฌอนและแดเนียล สองพี่น้องหมาป่าแห่งซีแอทเทิลและการเหยียดเชื้อชาติที่นำพาไปสู่การหนีคดี

หาก Life is strange ภาคแรกเล่าเรื่องสาวแม็กซ์ คอลฟีลด์ที่เพียงแค่ใช้มือข้างเดียวก็ย้อนเวลาได้ คุณคงคิดว่าภาคสองจากเกมซีรีส์นี้คงไม่แตกต่างกันนัก แต่แท้จริงแล้วเรื่องราวของสองพี่น้องหมาป่าคู่นี้มันช่างหดหู่ยิ่งกว่าภาคแรกเหลือเกิน เพราะฌอนและแดเนียลต้องพบเจอกับอุปสรรคมากมาย ชนิดที่ว่าภาคแรกก็ยังสู้ไม่ได้ (ถึงมันจะเศร้าเหมือนกันก็เถอะ)

ในภาคนี้เราจะได้เล่นเป็นฌอน ดิแอซ (Sean Diaz) ที่อาศัยอยู่กับพ่อและน้องชายของเขา แดเนียล ดิแอซ (Daniel Diaz) และพ่อของเขาเอซตาบัน ดิแอซ (Estaban Diaz) ที่เมืองซีแอทเทิล วันๆของพวกเขาในแต่ละวันดูมีความสุขดี จะมีอุปสรรคก็แต่เพื่อนบ้านที่ไม่ค่อยลงรอยกับพวกเขาสักเท่าไหร่ สุดท้ายการเหยียดเชื้อชาติก็ทำให้โศกนาฏกรรมเกิดขึ้นจนพวกเขาต้องหนีออกจากบ้านแสนสุขที่ไม่สุขสำหรับพวกเขาอีกต่อไป

หว่านพืชเช่นไร พืชย่อมให้ผลเช่นนั้น

เสน่ห์แห่งเกมตัวเลือก ผู้เล่นเกมตัวเลือกรับรู้ความจริงข้อนี้ดี การเลือกตอบคำถามนำพาไปสู่หายนะ หรืออาจนำพาไปสู่ตอนจบที่ดีที่สุดของเกม แม้แต่ในเกมนี้ก็เช่นเดียวกัน เราสามารถเลือกได้ว่าจะให้ฌอนเป็นตัวอย่างที่ดีให้น้องชายสุดที่รักได้อย่างไร และควรเลือกทำอย่างไรไม่ให้แดเนียลเติบโตไปเป็นคนไม่ดี เช่น เราสามารถเลือกได้ว่าเราควรขโมยของจากร้านสะดวกซื้อหรือไม่ หรือหากชีวิตของคุณมันกลับหัวกลับหางไปหมด คุณจะยังเลือกทำความผิดไหมทั้งที่รู้ว่ามันอาจไม่ดีในการเป็นแบบอย่างให้กับคนอื่น

การเสพบรรยากาศในสถานที่ต่างๆ เสน่ห์อันเป็นเอกลักษณ์เฉพาะในเกม Life is strange

การเสพบรรยากาศจากสถานที่ต่างๆในเกม เป็นสิ่งที่เราชอบที่สุดในเกม Life is strange (ถึงจะชอบบรรยากาศภาคแรกมากกว่าก็เถอะ) หากคุณเคยเล่นเกมภาคแรกมาแล้ว คุณอาจจะคุ้นเคยกับบรรยากาศของ Blackwell Acadamy, ไดเนอร์ของจอยซ์, ห้องพักของแม็กซ์ ฯลฯ แน่นอนว่าภาคสองก็มีอะไรแบบนี้ด้วยเหมือนกัน ถึงแม้ว่าเนื้อเรื่องมันจะดูดาร์คกว่าภาคแรกไปเสียหน่อย แต่บรรยากาศในเกมนี้ก็ดีไม่แพ้ภาคแรกเลย เราจะได้เห็นความเป็นธรรมชาติ ป่าใหญ่ บ้านท่ามกลางหิมะที่บีเวอร์ครีก (อีกเรื่องคือฌอนมักใช้เวลาพักไปกับการวาดรูป และเราก็ต้องเป็นคนคุมฌอนให้วาดรูปด้วย *ไม่ได้วาดเองนะ ฌอนวาด)

การเหยียดเชื้อชาติในอเมริกา ความเจ็บปวดที่ฌอนและแดเนียลต้องพบเจอในเกม Life is strange 2

ทั้งการถูกเหยียดจากชายวัยกลางคนที่จับพวกเขาทั้งคู่มาขังเอาไว้หลังร้านสะดวกซื้อ ก่นด่า ขู่ทำร้าย หรือถูกเหยียดความต่างทางเชื้อชาติ หรือหนักกว่านั้น การถูกล้อเลียนด้วยภาษาสเปนในฉากที่ฌอนจอดพักรถจนต้องขับรถหนีออกมาพร้อมกับน้ำตาท่วมใบหน้า คือสิ่งที่ฌอนและแดเนียลล้วนต้องเจอแทบตลอดทั้งเกม

ไม่เพียงแค่ถูกเหยียดเชื้อชาติในโลกแห่งเกมเท่านั้น เพราะในปัจจุบัน การเหยียดเชื้อชาติในอเมริกายังคงมีแนวโน้มมีรุนแรงมากขึ้น ทั้งการเหยียดเอเชียจนทำให้ชาวเอเชียนหวาดระแวง และการถูกเลือกปฏิบัติขณะอาศัยอยู่ในประเทศอเมริกา โดยเมื่อปี 2020 บทความจากไทยพีบีเอสได้รายงานว่า ใน 1 ปี มีชาวเอเชียนที่ถูกทำร้ายในอเมริกาถึง 3,700 ครั้ง ซึ่งองค์กรยุติความเกลียดชังต่อชาวอเมริกันเชื้อสายเอเชียและหมู่เกาะแปซิฟิก (AAPIP) รายงานว่ามีการแจ้งเหตุอาชญากรรมจากความเกลียดชังต่อชาวเอเชียถึง 3,795 เหตุการณ์ ในช่วงตั้งแต่วันที่ 19 มี.ค.2563 – 28 ก.พ.2564

เพลงประกอบ ส่วนสำคัญที่ทำให้เกมซีรีส์ Life is strange สมบูรณ์แบบ

สำหรับเกมซีรีส์นี้ ผู้เล่นหลายคนคงคาดหวังกับเพลงประกอบในตัวเกม เพราะหากคุณเคยเล่นเกมซีรีส์นี้มาก่อน คุณจะรู้ได้ทันทีว่าเพลงประกอบในเกมนี้มันเพราะมาก และมันก็ทำงานกับใจของคนเล่นอยู่เสมอเมื่อคุณเล่นมันจบ หากวันหนึ่งคุณบังเอิญพบว่ามีคนรอบตัวเปิดเพลงพวกนี้ขึ้นมา คุณอาจจะอุทานอยู่ในใจว่า “นั่นเพลงประกอบเกมนี่หว่า!”

ภาคนี้ก็เช่นเดียวกัน เพลงประกอบจากซีนในเกมยังคงทำงานได้ดี เลือกใช้เพลงที่ค่อนข้างฟังสบาย เหมาะเจาะกับบรรยากาศป่าๆเขาๆ คุณจะไม่มีทางลืมเพลงประกอบภาคนี้ไปได้ เพราะเมื่อคุณได้ยินมันจากที่ไหนสักแห่ง คุณจะหวนนึกถึงอดีตตอนที่คุณได้เล่นเกมนี้ขึ้นมาทันที

จบแล้วเหรอ… ความรู้สึกของผู้เขียนหลังจากที่ได้เล่นเกมนี้จบ

เกมนี้อาจไม่ใช่ทุกคนที่จะชอบมัน บางคนชอบเกมตัวเลือก บางคนไม่ชอบ แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว Life is strange ภาคนี้เป็นภาคที่สนุก ด้วยเนื้อเรื่องที่เข้มข้น อุปสรรคหลายรูปแบบที่เกิดขึ้นทำให้หลายตัวเลือกอาจลำบากใจสำหรับผู้เขียนไปบ้าง โดยรวมแล้วมันเป็นเกมที่อาจทำให้คุณต้องรู้สึกจมปลักไปสักพักหลังจากที่เล่นมันจนจบแล้ว ความรู้สึกทุกอย่างมันจะปนเปและอยู่ในหัวของคุณไปพักใหญ่ๆ เหมือนผู้เขียนที่นึกถึงมันอยู่พักหนึ่งหลังจากที่เล่นจนจบ

ปล. ตัวละครฌอนและแดเนียลดีมากๆ หากคุณได้เล่นเกมนี้จนจบ คุณจะได้เห็นพัฒนาการของพวกเขา การเติบโตของพวกเขา ที่คุณจะลืมไม่ลงเลย

*สปอยล์เนื้อหาในเกมแบบรุนแรง*

คำโป้ปดอาจทำให้เราสบายใจ แต่ความลับไม่อาจเป็นความลับได้ตลอดไป

“ความจริงเป็นสิ่งไม่ตาย” นั่นคือเรื่องจริง ความรู้สึกตอนที่ฌอนต้องปิดบังว่าพ่อของเขาเสียชีวิตแล้วทำให้เรารู้สึกเจ็บปวดหัวใจมากที่สุด เขาไม่อาจทำให้น้องชายของตัวเองเสียสูญได้ ฌอนรู้ดีว่าความจริงที่ว่าคุณพ่อของพวกเขาเสียชีวิตแล้วจะทำให้น้องชายของเขาเจ็บปวด เขาจึงเลือกเก็บความลับทุกอย่างเอาไว้กับตัวเอง ปั้นคำโกหกเพื่อไม่ให้แดเนียลเสียใจ และทิ้งหลักฐานทุกอย่างที่ชี้ให้เห็นว่าพ่อของเขาตายไปแล้ว

สุดท้ายแล้วความจริงทุกอย่างก็ไม่อาจเป็นความลับไปได้ตลอด แดเนียลได้รู้ความจริงว่าพ่อของเขาเสียชีวิตไปแล้วจริงๆ อย่างที่เราบอกเอาไว้ตั้งแต่ต้นว่า “คำโกหกอาจทำให้เราสบายใจ แต่ความลับไม่อาจเป็นความลับได้ตลอดไป”

ทั้งนี้ตัวเกมได้นำความจริงมาตีแผ่ให้เราได้เห็นสังคมในยุคปัจจุบัน ที่แม้ว่าเวลาจะผ่านไปนานเท่าใด การเหยียดเชื้อชาติบนโลกใบนี้ก็ยังคงเกิดขึ้นอยู่บ่อยครั้งและมีแนวโน้มรุนแรงมากขึ้น

บางครั้งมนุษย์เราก็ใช้ศาสนามาเป็นเครื่องมือในการหาเงินเข้าตัวเอง – หายนะก่อนที่เรื่องราวนี้จะสิ้นสุดลงอย่างสมบูรณ์

หากประเทศไทยมีน้องไนซ์ หรือพระบิดาที่ทำให้คนกลุ่มหนึ่งให้ความศรัทธาแบบกู่ไม่กลับแล้วล่ะก็ เกมซีรีส์ภาคนี้ก็คงไม่ต่างกันนัก เพราะหลังจากที่ฌอนและแดเนียลได้แยกจากกันในช่วงเวลาหนึ่ง แดเนียลพร้อมพลังวิเศษก็ได้ถูกนำไปใช้เป็นเครื่องมือในการหาเงินเข้าโบสถ์ด้วยการแสดงอภินิหารอันน่าอัศจรรย์ให้ผู้ติดตามได้เลื่อมใส ทำให้ฌอนต้องพาน้องกลับมาสู่อ้อมอกของพี่ชายอีกครั้ง

ผู้เขียนไม่ทราบว่าคุณคิดอย่างไรกับเรื่องศาสนาเพราะมันเป็นเรื่องที่ละเอียดอ่อน แต่นั่นเป็นเรื่องจริงแท้ที่บางครั้งมนุษย์เราก็ใช้ศาสนามาเป็นเครื่องมือในการหาเงินเข้าตัวเอง โดยอาศัยความเชื่อของคนอื่นเป็นตัวนำ เมื่อทำให้พวกเขาเชื่อได้แล้ว ก็เริ่มหาเงินเข้ากระเป๋าของตนเองซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ถูกต้องนัก ลิซเบธได้รับโทษนั้นอย่างสาสม สุดท้ายแล้วฌอนและแดเนียลก็ต้องหนีจากตำรวจอีกครั้งเมื่อโบสถ์หลังนั้นถูกเผาเป็นจุลหลังจากที่เกือบถูกคนในโบสถ์ฆ่าตาย

แม็กซ์ คอลฟิลด์ เดวิด แมดเซ่น จอยซ์ แมดเซ่น และ โคลอี้ ไพรซ์ ตัวละครจากภาคแรกที่ยังถูกกล่าวถึงใน Life is strange 2

แม้ว่าภาคแรกในเกมซีรีส์ Life is strange จะจบลง แต่เราจะยังได้เห็นชีวิตของพวกเขาที่ถูกกล่าวถึงในเกมภาค 2 เช่นเดียวกัน (เดวิด พ่อเลี้ยงของโคลอี้ก็ยังอยู่ในเกมภาคนี้นะ) ซึ่งชีวิตของโคลอี้และแม็กซ์นั้นจะเป็นอย่างไร ก็ขึ้นอยู่กับว่าในภาคที่แล้วคุณเลือกตอนจบให้พวกเขาอย่างไรบ้าง *กิมมิคอีกอย่างหนึ่งคือเราจะได้เห็นอาร์เคเดียร์เบย์ในโอเรก้อนตอนภาคแรกด้วย พูดแล้วมันคิดถึง ตอนนั้นมันดีจริงๆ!

“คาเรน” จากแม่ผู้ไม่เอาไหนในสายตาฌอน สู่แม่ผู้ส่งลูกทั้งสองสู่ปัวร์โตโลโบสในดินแดนเม็กซิโก

หากคุณถามว่าในเกมนี้มีอะไรให้น่าเสียน้ำตาบ้างรึเปล่า- ผู้เขียนคงต้องบอกว่าคาเรนคือผู้ที่ทำให้ผู้เขียนเสียน้ำตามากที่สุด ในตอนสุดท้ายก่อนที่เกมจะจบลง ฌอนและคาเรน ผู้เป็นแม่ของเขาไม่ได้ลงรอยกันนัก ฌอนตราหน้าว่าคาเรนเป็นแม่ที่ไม่เอาไหน ก่อนหน้านั้นเขากีดกันแดเนียลทุกวิถีทางเพื่อไม่ให้เขาได้พบกับแม่ ช่วงที่ฌอนและคาเรนได้พบกันก่อนจะเข้ารัฐแอริโซนา คุณจะสามารถเลือกได้ว่าคุณจะยอมรับแม่ของคุณไหมหากเธอเป็นคนทิ้งคุณ ตัวเกมได้ให้คุณลองลดทิฐิในตัวฌอน เช่นเดียวกัน คุณสามารถลดทิฐิลงหรือจะคงอีโก้ในตัวเขาเอาไว้ก็ได้ แต่สำหรับผู้เขียนแล้ว การลดอีโก้ลงและยอมเข้าใจคนอื่นเป็นเรื่องที่ไม่แย่ แม่ของเขาเป็นที่พึ่งคนสุดท้าย เพราะอย่างนั้นจึงไม่มีเหตุผลอะไรที่ต้องปฏิเสธเธอ ตัวเลือกสุดท้ายที่ผู้เขียนเลือกคือเลือกตอบคำถามเชื่อใจเธอ และเข้าใจในสิ่งที่เธอได้เจอด้วยใจจริงๆ และนั่นก็ทำให้ตัวละครฌอนได้ผ่านเหตุการณ์ต่างๆเพื่อเติบโตได้เสียที

สุดท้ายคาเรนก็ได้กลายมาเป็นแม่ที่พร้อมเสี่ยงเพื่อลูกๆทั้งสองด้วยความรัก และเป็นแม่ผู้ส่งลูกทั้งสองสู่ปัวโตโลโบส ดินแดนซึ่งเป็นที่ปลอดภัยสำหรับฌอนและแดเนียล ทำให้ผู้เขียนได้รู้ซึ้งถึงความสำคัญในการมีครอบครัวอยู่ข้างๆจนต้องหลั่งน้ำตาออกมา

แม้ว่าก่อนจะจบเกมนี้ ทั้งฌอนและแดเนียลอาจได้เจออุปสรรคมากมายระหว่างทาง การเสียคนสำคัญในครอบครัวของพวกเขาอาจทำให้ชีวิตของพวกเขาต้องเสียสูญ แต่ตัวเลือกต่างๆก็ยังทำให้คุณสามารถเลือกตอนจบที่ดีที่สุดให้กับพวกเขาได้ ซึ่งนั่นเป็นคุณสมบัติอันทรงเสน่ห์ของ Life is strange ในภาคนี้ที่คุณต้องเลือกจบมันด้วยตัวเอง หรือถ้าหากคุณไม่ชอบตอนจบของมันในตอนแรกที่คุณเล่นล่ะก็ คุณจะเข้าไปเปลี่ยนตอนจบให้มันดีที่สุดสำหรับคุณก็ได้นะ

อ้างอิง: 1 ปี คนเอเชียถูกทำร้าย – เหยียดเชื้อชาติในสหรัฐฯ 3,700 ครั้ง – ThaiPBS

You May Also Like

More From Author

+ There are no comments

Add yours